UPA ทุ่มงบ 25 ล้านดอลลาร์ ร่วมทุนตั้งเหมืองขุดคริปโตฯ ใน สปป.ลาว
Read Time:7 Minute, 20 Second

UPA ทุ่มงบ 25 ล้านดอลลาร์ ร่วมทุนตั้งเหมืองขุดคริปโตฯ ใน สปป.ลาว

0 0

UPA ร่อนหนังสือแจ้งตลาดหุ้น หลังที่ประชุมโหวตผ่านอนุมัติงบ 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 817.7 ล้านบาท ตั้งบริษัทร่วมทุน holding company กับ Asia Investment and Financial Services Sole Company Limited ของสิงคโปร์ ในสัดส่วนร้อยละ 50 เข้าลงทุนเหมืองขุดคริปโตฯ ในประเทศ สปป.ลาว ไม่เกิน 2,000 เครื่อง โดยมีอัตราการแบ่งผลประโยชน์ 60-40 คือ บริษัทฯ ได้รับผลประโยชน์ในสัดส่วนร้อยละ 60 และคู่สัญญาได้รับผลประโยชน์ร้อยละ 40 เน้นขุดเหรียญคริปโตฯ หลักทั้ง Bitcoin อีเธอร์ (Ether) และไลท์คอยน์ (Litecoin)

นายวิชญ์ สุวรรณศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) บมจ.ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย หรือ UPA เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ บมจ.ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย หรือ UPA ครั้งที่ 1/2565 ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าลงทุนในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ใช้คริปโตเคอร์เรนซี หรือการขุดเหมืองคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency Mining) ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ในวงเงิน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 817.7 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารที่ 32.708 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565) ใน 2 รูปแบบ คือ

1.ลงทุนในบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อขอรับใบอนุญาตสำหรับการทำธุรกิจเหมืองคริปโตเคอร์เรนซี โดยลงทุนผ่านบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นในประเทศสิงค์โปร์ในฐานะ holding company และบริษัทที่จะจัดตั้งในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยเป็นการร่วมลงทุนกับ Asia Investment and Financial Services Sole Company Limited (“AIFS”) โดยมีรูปแบบการลงทุน ดังนี้

เพื่อให้เป็นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯ และ AIFS จะถือหุ้นในบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ (Singapore Holding) ในสัดส่วนฝ่ายละร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และ Singapore Holding จะถือหุ้นทั้งหมดในบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Laos Holding) และ Laos Holding จะเข้าลงทุนร่วมกับหุ้นส่วนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อถือหุ้นในบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อขอรับใบอนุญาตสำหรับการทำธุรกิจเหมืองคริปโตเคอร์เรนซี (Operating Company) ในสัดส่วนฝ่ายละร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด (การลงทุนในหุ้น) โดยมีโครงสร้างการลงทุนในหุ้น ดังนี้

หมายเหตุ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเจรจราเพื่อจัดโครงสร้างสำหรับการลงทุนในหุ้น ดังนั้น โครงสร้างการลงทุนในหุ้นอาจจะแตกต่างจากที่บริษัทฯ เปิดเผยข้างต้น โดยอาจมีทั้งการลงทุนโดยการถือหุ้น และการให้กู้ยืมในฐานะผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความตั้งใจที่จะให้สัดส่วนการถือหุ้นระหว่างบริษัทฯ และ AIFS ในส่วนของบริษัทฯ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 โดยบริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลให้ทราบเพิ่มเติมหากการโครงสร้างสำหรับการลงทุนในหุ้นเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ Operating Company จะเป็นผู้ประกอบธุรกิจเหมืองคริปโตเคอร์เรนซี โดยบริษัทฯ และ AIFS ได้เจรจากับหุ้นส่วนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อจัดสรรผลประโยชน์ระหว่างกัน โดยแบ่งผลประโยชน์ตามที่ตั้งของเหมืองคริปโตเคอร์เรนซี โดย บริษัทฯ และ AIFS ผ่าน Laos Holding จะเป็นผู้รับผลประโยชน์ (เหรียญคริปโตเคอร์เรนซีที่ขุดได้) และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของ Operating Company ที่ได้รับจากเหมืองขนาด 30 เมกะวัตต์ โดยจะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว จำนวน 30 เมกะวัตต์ โดยแบ่งเป็น

1) การซื้อไฟฟ้า 20 เมกะวัตต์ ที่เหมืองที่เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งสามารถรองรับเครื่องขุดคริปโตเคอร์เรนซีได้ถึง 6,000 เครื่อง และ

2) การซื้อไฟฟ้า 10 เมกะวัตต์ เพื่อสำรองการขยายโครงการ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีแผนการดังกล่าว

ทั้งนี้ หุ้นส่วนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จะไม่ได้รับส่วนแบ่งใดๆ หรือรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนของเหมืองของ Laos Holding และ Laos Holding ก็จะไม่ได้รับส่วนแบ่งใดๆ หรือรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนของเหมืองของหุ้นส่วนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เช่นกัน

2.การลงทุนในเครื่องขุดคริปโตเคอร์เรนซี จำนวนไม่เกิน 2,000 เครื่อง เพื่อเข้าทำสัญญากับบริษัทในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจเหมืองคริปโตเคอร์เรนซี โดยบริษัทฯ มีหน้าที่จัดหาเครื่องขุดคริปโตเคอร์เรนซี และคู่สัญญามีหน้าที่ดำเนินการธุรกิจเหมืองคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งรวมถึงการจัดหาและรับผิดชอบค่าไฟฟ้า คนงาน และค่าใช้จ่ายๆ อื่น ซึ่งรวมถึงค่าภาษีอากรทั้งหมด โดยมีอัตราการแบ่งผลประโยชน์ 60-40 คือ บริษัทฯ ได้รับผลประโยชน์ในสัดส่วนร้อยละ 60 และคู่สัญญาได้รับผลประโยชน์ร้อยละ 40 ของเหรียญที่สามารถขุดได้ โดยสัญญาดังกล่าวสามารถรองรับเครื่องขุดคริปโตเคอร์เรนซีได้ถึง 2,000 เครื่อง (สัญญา 60-40)

การลงทุนในธุรกิจเหมืองคริปโตเคอร์เรนซี ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนให้หุ้น หรือการลงทุนในทรัพย์สินนั้นจะเป็นการขุดคริปโตเคอร์เรนซีสกุลบิตคอยน์เป็นหลัก

อย่างไรก็ดี บริษัทฯ สามารถและอาจพิจารณาปรับเครื่องขุดคริปโตเคอร์เรนซีบางส่วนเพื่อขุดคริปโตเคอร์เรนซีสกุลอื่น เช่น อีเธอร์ (Ether) หรือไลท์คอยน์ (Litecoin) ได้

ทั้งนี้ การลงทุนในหุ้น และการลงทุนในทรัพย์สินเป็นการลงทุนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเป็นการลงทุนกับคู่สัญญาที่ต่างกัน และมิได้ใช้ทรัพย์สินร่วมกัน โดยในการนี้ คณะกรรมการบริษัทได้มอบอำนาจให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และบุคคลที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกำหนด เป็นผู้กำหนดรูปแบบและวงเงินสำหรับการลงทุนในหุ้นและการลงทุนในทรัพย์สิน โดยสามารถทยอยลงทุนเป็นเฟสๆ ภายใต้วงเงินไม่เกิน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา

การลงทุนในธุรกิจเหมืองคริปโตเคอร์เรนซีในครั้งนี้เข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ.20/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ (ตามที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ.2547 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) (รวมเรียกว่า “ประกาศเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไป”)

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาขนาดของรายการดังกล่าวด้วยวิธีการคำนวณตามเกณฑ์ต่างๆ ภายใต้ประกาศเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไป โดยคำนวณจากงบการเงินรวมของบริษัทฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 ที่ได้รับการสอบทานโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแล้ว มีมูลค่าสูงสุดเท่ากับร้อยละ 17.67 ตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณานับรวมรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์รายการอื่นที่เกิดขึ้นในระหว่างระยะเวลา 6 เดือนก่อนการเข้าทำรายการในครั้งนี้ ได้แก่

1) การลงทุนเพิ่มเติมในหุ้นสามัญ จำนวน 940,767 หุ้นของบริษัท โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล กรุ๊ป จำกัด ในมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 212.70 ล้านบาท ซึ่งมีขนาดรายการเท่ากับร้อยละ 0.21 ตามเกณฑ์มูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิ และร้อยละ 5.01 ตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน

2) การเข้าลงทุนในหุ้นสามัญ จำนวน 5,672,800 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 80 ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ Asia Energy and Utilities Holding (Singapore) Pte. Limited ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 44 ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ Central Wind Power Joint Stock Company ในมูลค่าการรวมทั้งสิ้น 7.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือ 236.05 ล้านบาท ซึ่งมีขนาดรายการเท่ากับร้อยละ 6.41 ตามเกณฑ์มูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิ และร้อยละ 5.56 ตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทนจะทำให้ขนาดรายการรวมสูงสุดเท่ากับร้อยละ 29.09 ตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน

ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามประกาศเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไป โดยเปิดเผยสารสนเทศการเข้าทำรายการข้างต้นต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) ตามบัญชี (1) ท้ายประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน และจัดส่งหนังสือเวียนให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ภายใน 21 วันนับแต่วันที่เปิดเผยสารสนเทศการเข้าทำรายการต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ

ทั้งนี้ การเข้าทำรายการดังกล่าวข้างต้นไม่ใช่การเข้าทำรายการระหว่างบริษัทฯ กับบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ ดังนั้น จึงไม่ถือเป็นรายการเกี่ยวโยงกันตามที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ.21/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน (ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ.2546 (ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม)

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %
Previous post บิ๊กซีผนึกกำลัง 14 แบรนด์ข้าวถุง และกระทรวงพาณิชย์ จัดแคมเปญ “ข้าวถุงร่วมใจ ประหยัดทั่วไทย ที่บิ๊กซี ครั้งที่ 14”
Next post UPA ควัก 800 ล้านบาท ลงทุน “ขุดเหมืองคริปโต” ใน สปป.ลาว